ประวัติพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก........
พระเจ้าเปิดโลก หมายถึง
เหตุการณ์ที่พระโคตมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในพรรษาที่เจ็ดของ
พระองค์หลังจากที่เสด็จขึ้นไปแสดงพระธรรมเทศนา ในโอกาสนั้น
ทรงสำแดงฉัพพรรณรังสี เป็นเหตุให้โลก (ภูมิ)
ทั้งหลายตั้งแต่พรหมภูมิไปจนถึงนรกภูมิเปิดสว่างจนแลเห็นซึ่งกันและกันได้
ในการนี้ อาจหมายถึง
เทโวโรหณะ - ชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเหตุการณ์พระเจ้าเปิดโลก
วันเทโวโรหณะ - วันที่เกิดเหตุการณ์พระเจ้าเปิดโลกในพุทธกาล ตรงกับวันแรม 1 เดือน 11 ตาม ปฏิทินจันทรคติ
วันออกพรรษา - วันสิ้นสุดการจำพรรษาตามคติพุทธศาสนา ตรงกับวันขึ้น 15 เดือน 11 (วันก่อนวันเทโวโรหณะ) ของทุกปีตามปฏิทินจันทรคติ
ตักบาตรเทโว - การทำบุญตักบาตรในวันออกพรรษาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์พระเจ้าเปิดโลก
ปางเปิดโลก - ชื่อพระพุทธรูปท่าหนึ่ง มีกริยาดังพระโคดมเมื่อเสด็จลงจากเทวโลกในเหตุการณ์พระเจ้าเปิดโลก
ความเป็นมาของ ปางเปิดโลก ตามพุทธประวัตินั้น
เมื่อครบกำหนด 3 เดือน
ที่พระสัมพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปจำพรรษาโปรดพุทธมารดา
จึงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระพุทธองค์ทรงทำโลกวิวรณปาฏิหาริย์ คือ
ทรงเปิดโลกทั้ง 3 อันได้แก่ เทวโลก ยมโลก และมนุษยโลก
ให้มองเห็นถึงกันหมดด้วยพุทธานุภาพ
เหล่าเทวดาในสวรรค์มองเห็นมนุษย์และสัตว์นรก มนุษย์มองเห็นเทวดาและสัตว์นรก
สัตว์นรกมองเห็นมนุษย์และเทวดา
แล้วจึงเสด็จลีลาลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่สังกัสสนคร ในวันแรม 1 ค่ำ
เดือน 11
ถึงวันมหาปวารณา เสด็จลงจากดาวดึงส์โดยบันไดแก้ว บันไดทอง
บันไดเงิน พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก คือ จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อภายหลังเสด็จจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดังกล่าวเพื่อแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา
แล้ว วันที่เสด็จลงคือวันออกพรรษา เมืองที่เสด็จลงคือเมืองสังกัสนคร
เสด็จลงตรงประตูเมือง พระบาทแรกที่ทรงเหยียบพื้นโลกนั้น
ต่อมาได้กลายเป็นสถานที่ระลึกเรียกว่า 'อจลเจดีย์' เรียกอย่างไทยเราก็ว่า
'รอยพระพุทธบาท'
ตามตำนานว่าที่นี่เป็นที่แห่งหนึ่งซึ่งมีรอยพระพุทธบาทปรากฎอยู่
ก่อนพระพุทธเจ้าเสด็จลง เทพเจ้าคือพระอินทร์ได้เนรมิตบันได ๓
บันไดเป็นที่เสด็จลง คือ บันไดทอง บันไดเงิน และบันไดแก้วมณี
บันไดทองสำหรับหมู่เทพลงอยู่ด้านขวา
บันไดเงินอยู่ด้านซ้ายสำหรับท้าวมหาพรหม
และบันไดแก้วมณีอยู่ตรงกลางสำหรับพระพุทธเจ้า
หัวบันไดแต่ละอันพาดที่เขาสิเนรุเชิงบันไดทอดลงยังประตูเมืองสังกัสนคร
หมู่คนทางเบื้องขวาของพระพุทธเจ้าอย่างที่เห็นในภาพ
จึงคือหมู่เทพที่ตามส่งเสด็จ
เบื้องซ้ายผู้ถือฉัตรกั้นถวายพระพุทธเจ้าคือท้าวมหาพรหม
ผู้อุ้มบาตรนำเสด็จพระพุทธเจ้าคือพระอินทร์
ผู้ถือพิณบรรเลงถัดมาคือปัญจสิงขรคนธรรพ์เทพบุตร
ถัดมาเบื้องขวาคือมาตุลีเทพบุตร ซึ่งถือพานดอกไม้ทิพย์
โปรยปรายนำทางเสด็จพุทธดำเนิน
พระพุทธเจ้าทรงเป็นวิสุทธิเทพผู้บริสุทธิ์
นักเขียนศาสนาพุทธรุ่นต่อมาจึงถวายพระนามเฉลิมพระเกียรติอย่างหนึ่งว่า
'เทวาติเทพ' แปลว่า ทรงเป็นเทพยิ่งกว่าเทพทุกชั้น เทพต่างๆ
ที่คนอินเดียในสมัยนั้นนับถือกัน เช่น พระอินทร์ และท้าวมหาพรหม เป็นต้น
......................................................................................................ณ
โอกาสบัดนี้ ทางวัดลำบัวลอย จึงขอเชิญ พุทธศาสนิกชน
ที่เลื่อมใสศรัทธาในคุณพระสมณโคดมพุทธเจ้า และ หลวงปู่ สนิท ยสินธโร
ร่วมทำบุญ รับศีล ปฎิบัติบูชา โดยพร้อมเพรียงกัน..