วัตถุมงคล
ประวัติการสร้าง พญาจระเข้ หลวงปู่สนิท

ประวัติการสร้างวัตถุมงคลรูปจระเข้ จาก หลวงพ่อประดิษฐ์ อนุตตโร....ได้พยายามรวบรวมข้อมูล เรื่องราวไว้ดังนี้

รุ่นก่อนปี พ.ศ.2509......
สมัยหลวงพ่อประดิษฐ์ ยังเล็ก โยมพ่อ โยมแม่ ท่านได้รับจระเข้ จากหลวงปู่สนิท เป็นเนื้อปรอท รูปร่างพิมพ์ คล้ายจิ้งจก ตัวใหญ่ ผิวขรุขระ ซึ่งหลวงปู่ได้ทำออกมาน้อยมาก ซึ่ง หลวงพ่อประดิษฐ์ ท่านมาพบอีกที จากโยมที่วัดที่เป็นลูกมือ หลวงปู่สนิท ท่านก็ได้ให้ไว้ เหมือนกัน

รุ่นปีพ.ศ. 2509 - 2516 .....
เพื่อแจกในงาน ฌาปนกิจศพ พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ท่านและ เป็นลุงของท่าน
จัดทำเป็นสองประเภท จระเข้โทน เนื้อตะกั่วหางตัน ลักษณะพิมพ์ เป็นจระเข้โทน หน้าจะเชิด และหางจะตัน ไม่มีรูทะลุ เหมือนรุ่นที่สอง จะมีอักขระอุณาโลมอยู่ที่หัวจระเข้ และด้านล่าง จะเป็นอักขระ นะมะพะทะ ธาตุสี่ และ อิสวาสุ หัวใจแก้วสามประการ จำนวน 7,999 ตัว และ จระเข้ เนื้อสามกษัตริย์ ลักษณะพิมพ์ เป็นจระเข้ อาริยบทสามลักษณะ ใต้ล่าง แต่ละตัว มีอักขระ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เป็นภาษาขอมเหนือห่วงร้อยสาย จำนวนการสร้าง 500 ชุด
ซึ่งจระเข้รุ่นนี้ได้สร้างชื่อ โจษขานเล่าลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความนิยมนับถือแก่ผู้ครอบครอง ซึ่งในสมัยนั้น ผู้ที่อยากได้ ต้องขอแบ่งบูชาด้วยราคาที่สูง ถึง 1500 - 2000 บาท ในยุคสมัยนั้น ถือว่าราคาแพงมาก หลวงปู่สนิท ท่านตั้งใจทำตามตำราโบราณทุกประการและที่สำคัญ แจกในงานทำบุญพระอาจารย์เส็ง จึงใช้เวลาสร้างนาน เพื่อรำลึกของพระคุณครูบาอาจารย์............

รุ่นปี พ.ศ.2516 - 2519..........
คณะพ่อค้า ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ได้มาขอร้องให้หลวงปู่สร้างรุ่นที่ สอง ขึ้น โดยมีคณะเจ้าภาพดังนี้ ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ ออกทุนในการสร้างไม่หวังผลประโยชน์ กับทางวัด บริจาคด้วยใจอันบริสุทธิ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ดังรายนามต่อไปนี้
1. คุณชิน ชุมรุม กรมวิเทศสหการ ประธานกรรมการ
2. น.ท. แสวง บุญยิ่ง กรรมการ
3. คุณมงคล กัลยาวินัย กรรมการ
4. คุณมานิตย์ มานิตย์กุล กรรมการ
5. คุณวิรัตน์ เวชมามณเฑียร กรรมการ
6. กำนัน สุวรรณ จารุภูมิ กรรมการ
จำนวนการสร้าง 100,999 ตัว เป็นเนื้อ ตะกั่วผสมชิน ลักษณะพิมพ์ เป็นจระเข้ โทน ทรงโค้ง เวียนขวา หางจะทะลุ มีอุณาโลม ที่ ด้านบนหัวจระเข้ ด้านล่าง ประกอบด้วย นะมะพะทะ ธาตุทั้งสี่ และ อิสวาสุ หัวใจแก้วสามประการ ซึ่งในส่วนที่หลวงปู่แจก แก่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน
ท่านจะตอกโค๊ด ทบ. ต่อจากอุณาโลม เป็นสัญลักษณ์
ซึ่งทางวัดได้ทำการหล่อเองที่วัด
หลวงปู่สนิทได้กระทำการปลุกเสก 3 เดือน (ไตรมาส) นับว่าเป็นรุ่นพิเศษ เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จ ทางคณะกรรมการได้แยกประเภทไว้ดังนี้
1. ทำการแจกแก่ผู้สั่งจองไว้ก่อน จำนวน 3,500 ตัว
2. ได้จัดไว้ให้เช่าบูชา ตัวล่ะ 200 บาท จำนวน 5,000 ตัว
3. ถวายหลวงปู่ไว้แจกแก่ลูกศิษย์ จำนวน 3,000 ตัว
ส่วนที่เหลือจึงได้ทำการบรรจุไว้ ภายในอุโบสถของวัด เพื่อรอโอกาสที่จะเปิดกรุ หาทุนทรัพย์ สร้างเจดีย์
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2525 ได้ทำการเปิดกรุ ออกมาครั้งนี้ มีจำนวนประมาณ 89,499 ตัว ทางคณะกรรมการวัด ได้แยกประเภทไว้ดังนี้
1. ถวายหลวงปู่แจกแก่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ชายแดน จำนวน 20,000 ตัว
2. ถวายหลวงปู่ในการกุศล เป็นเอกสิทธิ์หลวงปู่โดยตรง จำนวน 20,000 ตัว
3. ส่วนที่เหลือ คณะกรรมการวัด ควบคุมโดยตรง โดยเปิดให้บูชา ตัวละ 200 บาท จำนวน 49,499 ตัว
ซึ่งรุ่นนี้ ได้เกิดปาฎิหารย์ หลายครั้งหลายครา แก่ผู้บูชา ซึ่งสามารถทดแทนรุ่นแรกหางตัน ที่หาได้ยากยิ่ง

รุ่นปี พ.ศ. 2528 - 2533............
เป็นจระเข้ รุ่นสุดท้าย ที่กล่าวขานกันมาก ในปัจจุบัน คือ จระเข้ จันทร์เพ็ญ เป็นรุ่นสุดท้ายของวัดลำบัวลอย ที่หลวงปู่สนิท สร้าง ลักษณะเป็นจระเข้โทน วนขวา แต่จะมีศรนารายณ์ ประทับอยู่ บนหลังจระเข้ บนหัวจระเข้ จะมีอุณาโลม ประทับอยู่ ด้านล่าง จระเข้ ประกอบด้วย อักขระ นะมะพะธะ ธาตุสี่ และ อิสวาสุ หัวใจแก้วสามประการ เป็นภาษาขอมประทับอยู่ ด้านใต้จระเข้
เนื้อโลหะที่ได้สร้าง จระเข้ รุ่นนี้เป็นเนื้อโลหะพิเศษ ที่เรียกว่ารัตนโลหะ หรือ รัตนมงคล ประกอบด้วยโลหะสามชนิด และหลวงปู่ได้จารอักขระเลขยันต์ เพื่อ นำไปหล่อหลอม การสร้างจระเข้ รุ่นนี้ สีของโลหะจึงออกมา สองโทนสี คือ แก่ทองคำ และ ทองเหลืองฝาบาตร
สร้างสองพิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก จำนวนการสร้าง 44,499 ตัว รุ่นนี้จะพิเศษกว่า ทุกๆรุ่น ตรงใช้เวลาการสร้างยาวนาน และปลุกเสกนานกว่าทุกรุ่น ใช้เวลาการสร้างถึง 5 ปี และ หลวงปู่ได้ทำการเสก ในวันเพ็ญ ทุกๆเดือน เริ่มปลุกเสก เมื่อปี พ.ศ. 2528 จนครบ 5 พรรษา จระเข้รุ่นนี้จึงได้นามว่า จันทร์เพ็ญ
และเนื่องในงานผูกพัทธสีมา วัดลำบัวลอย จึงได้นิมนต์ พระเกจิอาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ทำการพิธีพุทธาภิเษก อีกครั้ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2533 เพื่อให้ไว้เป็นที่ระลึก ในงานผูกพัทธสีมา วัดลำบัวลอย ในวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ 2533 ..........นั่นเอง
จระเข้รุ่นนี้ จึงพิเศษกว่า รุ่นอื่น ๆ ซึ่งมีพระธาตุ เสด็จมาเกาะที่ตัวจระเข้ นั้นเป็นส่วนใหญ่.....บางคนนำไปบูชา ก็เกิดมีพระธาตุ เสด็จไปเกาะที่ตัวจระเข้ ที่บูชาที่บ้าน ก็มีมาก...จึงเป็นที่โจษขานกันมากอีกรุ่น ซึ่งต้องบูชาไว้ในที่สูง เท่านั้น.....จะเป็นมงคลแก่ตัวผู้บูชาเอง หากไม่บูชาในที่อันสมควร จระเข้ และพระธาตุ ก้จะเสด็จกลับมายังวัด หรือ หายไปเอง จากคำกล่าวของหลวงพ่อประดิษฐ์ และ ญาติโยม ที่บูชาจระเข้รุ่นนี้.............

ต่อมาก็จะเป็นจระเข้....ที่ออกโดยทางวัดสะแกซึง ซึ่ง อยู่ก่อนถึงวัดหลวงปู่สนิท วัดลำบัวลอย ได้มาขอบารมี หลวงปู่สนิท ให้ทำการเสกให้เพื่อ ออกให้บูชา แก่ผู้ร่วมทำบุญ วัดสะแกซึง ลักษณะ พิมพ์จะคล้ายกับ จระเข้สามกษัตริย์ ของทางวัด แต่ตัวจะใหญ่กว่า และ อักขระ ใต้ท้อง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ที่เป็นอักขระขอม จะอยู่ใต้ ห่วงร้อยเชือก ซึ่งรุ่นนี้ ก็มีประสบการณ์มากมาย จากผู้ได้บูชา ได้มาเล่าสู่กันฟัง...........ด้วยบารมีหลวงปู่สนิท ที่ได้ไปช่วยวัดสะแกซึง จึงได้พัฒนาเป็นวัดที่สวยงามในปัจจุบัน.................

พิธีบูชาจระเข้โทน............จระเข้โทนที่หลวงปู่สนิท ท่านได้สร้างขึ้นมานี้ จะส่งผลให้แก่ผู้บูชาดังนี้
1. มีมหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันแคล้วคลาด ภัยอันตรายต่างๆ
2. คุ้มคองป้องกันภูตผีปีศาจ เกรงกลัว
3. แก้กันเสนียดจัญไร ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ โดยการอาราธนาแช่ลงน้ำ ใช้อาบและดื่มกิน
4. มีอำนาจทั้งทางสัตว์น้ำและ สัตว์บก
5. ทางเมตตา ค้าขาย
เท่าที่อธิบายมานั้น อาศัยตำราที่ระบุบอกไว้
คาถาที่ปลุกจระเข้โทน โดย ย่อๆได้แก่ หัวใจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ หรือ บางท่านเรียกหัวใจแก้วสามประการ คือ " อิสวาสุ "......ก่อนจะไปไหนมาไหน ให้ตั้งใจปลุกก่อน 3-7 คาบ (โดยบริกรรม) หรือ ในยามว่าง จะนั่งปลุกเสก 108 คาบ ก็ยิ่งประเสริฐนัก เพื่อเพิ่มพลังอิทธิฤทธิ์ให้แก่กล้าขึ้น หากจะใช้คาถาบทใหญ่โดยตรงก็ได้

.....อมปลุกพญากุมภา ลุกแล้วอย่าไปอื่น ตื่นแล้วจงมารักษา เข้าคุ้มครองกายา ทั่วสารพางกาย
พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ
พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส
พุทธังกุมภีโรโจรัง คงคัง ปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรัง คงคัง ปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรัง คงคัง ปิติอิ...............

การสร้างจระเข้ ขึ้นมาอาศัยอำนาจ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า ได้ทำพิธีบวงสรวงพระอัญเชิญพระบารมีของพระพุทธเจ้า เสวยพระชาติ เป็นพระโพธิสัตย์ในชาตินั้น ในตอนที่พระองค์ได้ทรงเสวยพระชาติเป็นพญากุมภา พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญบารมี แต่ยังเป็นผู้มีกิเลสอยู่ ...........
เมื่อผู้ใดได้นำติดตัวไปคล้องคอใส่กระเป๋า หรือจะผูกติดเอว แม้จะเข้าไปในตรอกซอกซอย ลอดใต้ถุนหรือราวตากผ้า จึงไม่มีการถือใดๆทั้งสิ้น เว้นแต่บุคคลนั้นจะเป็นผู้คิดคดต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บุคคลนั้นจะแพ้ภัย จระเข้จะไม่คุ้มครองป้องกัน.....................

พิธีบูชา จระเข้ รุ่น จันทร์เพ็ญ (นารายณ์อวตาร)
การบูชาจะไม่เหมือนรุ่นจระเข้โทน รุ่นแรก และรุ่นสอง อย่างที่กล่าวมา สร้างโดยพระขาติแห่งพระพุทธเจ้า แต่ รุ่นจันทร์เพ็ญ นี้สร้างจาการอวตาร จากองค์พระนารายณ์ เสด็จมายังโลกมนุษย์ เพื่อปราบอสูรที่มีฤทธิ์ จึงแตกต่างกัน ส่วนเรื่องอานุภาพ มิได้แตกต่างกันแต่อย่างใด ใช้ในทุกด้านเช่นกัน แต่จะเน้นทางคงกะพัน มหาปราบ และ ความเจริญก้าวหน้า อธิษฐานขอพรได้ตามปราถนา และความสำเร็จ อานุภาพมากมายเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บูชา.....
การที่เสกจนพระธาตุเสด็จนั้น ทำให้มีพระอรหันต์ธาตุ อยู่ด้วย จระเข้รุ่นนี้จึงไม่ควรนำไปคาดเอว แต่ควรเลี่ยมขึ้นคอแทน มีหลายคนกลับมาถามเวลาคาดที่เอวพระธาตุกลับเสด็จหายไป เพราะอย่างที่กล่าวมา คือมีพระอรหันต์ธาตุอยู่ด้วย จึงควรไว้ในที่สูง ส่วนเรื่องข้อห้ามอื่น มีเหมือนรุ่นแรก และ รุ่นสอง ทุกประการ คือ ผู้ใดที่คิดคตต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะแพ้ภัยตนเอง และจระเข้จะไม่คุ้มครองป้องกัน...............

คาถาปลุกจระเข้จันทร์เพ็ญ ว่าดังนี้.........
โอมสะท้านลั่นพระธรณี พระนารายณ์อวตารเป็นพญากุมภีร์ ทรงศรศรีกำกับกาย หวังจักปราบมารร้ายราวี
โอมพระพุทธัง เกาะโสทากะโร นะโมพุทธายะ
โอมพระธัมมัง เกาะโสทากะโร นะโมพุทธายะ
โอมพระสังฆัง เกาะโสทากะโร นะโมพุทธายะ
พุทธังคงเนื้อ ธัมมังคงหนัง สังฆังคงกระดูก
องค์พระพุทธัง คือ เพ็ชรคง เพ็ชรคง
องค์พระธัมมัง คิือ เพ็ชรคง เพ็ชรคง
องค์พระสังฆัง คือ เพ็ชรคง เพ็ชรคง
นะอิสวาสุ โมอิสวาสุ พุทอิสวาสุ ธาอิสวาสุ ยะอิสวาสุ.............
.........................................................................................................
ข้อมูลจากหลวงพ่อประดิษฐ์ อนุตตโร และ หนังสือเปิดตำนานสุดยอดวัตถุมงคล หลวงปู่สนิทวัดลำบัวลอย เล่ม 2

โพสเมื่อ : 23 พ.ค. 2559,22:34   อ่าน 4692 ครั้ง